วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การจัดสวนแบบโมเดิร์น

บ้านไหนที่อยากมีสวนโมเดิร์น วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีการจัดสวนแบบโมเดิร์นมาบอก...

สวนโมเดิร์น คือ สวนที่เน้นการใช้แนวเส้นและรูปทรงเรขาคณิตมาช่วยในการออกแบบ โดยใช้วัสดุตกแต่งที่ทันสมัยเข้ามาประกอบ เช่น รูปประติมากรรมต่างๆ แต่ไม่นิยมใช้พรรณไม้ปริมาณมาก ๆ แต่เลือกใช้เฉพาะที่มีรูปทรงโดดเด่น

วิธีจัดสวนโมเดิร์น

- จัดรูปแบบกระบะปลูกพรรณไม้ที่มีลักษณะแปลกตา เสริมด้วยน้ำพุที่สวน เพื่อสร้างบรรยากาศให้สดชื่น มีความเคลื่อนไหว และสวยงาม

- ใช้รูปแบบของเส้นซิกแซ็กสร้างการเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่นิยมปลูกพรรณไม้ตระกูลเฟิน และเพิ่มความพริ้วไหวของสวนด้วยน้ำพุหินแกรนิตทรงกลม

- การจัดพรรณไม้ให้มีเส้นขอบชัดเจน และเพิ่มที่นั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้

รู้อย่างนี้แล้ว ลองหันมาจัดสวนให้กลายเป็นสวนโมเดิร์นที่ดูทันสมัยกันดีกว่า.

ป้ายกำกับ: , ,

สีสันที่แตกต่าง

สีสันที่แตกต่าง

หากจะกล่าวว่าภาพสวนบาหลีที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสวนยอดฮิตในบ้านเรา มีจุดเริ่มต้นมาจากผู้ชายคนนี้ William Richard Bensley หรือ Bill Bensley ก็คงไม่ผิดนัก เพราะในช่วงที่กระแสการตกแต่งสไตล์บาหลีกำลังมาแรง สวนบาหลีที่บิลออกแบบได้รับการตีพิมพ์ตามหน้านิตยสารและหนังสือสวนทั้งไทยและต่างประเทศมากมายหลายเล่ม เมื่อนึกถึงสวนบาหลีหลายคนจึงนึกถึงบิลและบริษัทออกแบบของเขา

ใช่แล้ว..บริษัทเบนสเลย์ ดีไซน์ สตูดิโอ ซึ่งทุกคนต้องหลับตานึกภาพว่า ณ สตูดิโอแห่งนี้จะต้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายสวนธรรมชาติ ที่ชุ่มชื่นและร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้เมืองร้อนนานาพรรณ พร้อมลูกเล่นของฮาร์ดสเคปและประติมากรรมตกแต่งสวนที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันและเสน่ห์ในศิลปะแบบพื้นถิ่นที่บิลชื่นชอบ

แต่เมื่อเราได้มาเยือนสวนนี้ กลับต้องสลัดภาพสวนที่นึกไว้ออกไปทันที
"จะเห็นว่าคอนเซ็ปต์ที่นี่มีรูปแบบไม่เหมือนงานที่เบนสเลย์เคยทำให้ที่อื่นมาก่อน ที่แล้วมาอาจจะดู primitive หน่อย ออกจะเป็นสไตล์บาหลี หรือสไตล์โอเรียนทัลนิดๆ สวนที่นี่เปลี่ยนรูปแบบไป เพราะโครงสร้างของบ้านบังคับ แม้จะเป็นบ้านเก่าแต่ตัวบ้านออกสไตล์โมเดิร์น สวนจึงต้องออกมาให้สอดคล้องกัน" คุณจิระชัย เร่งทอง ไดเร็คเตอร์ของเบนสเลย์ ดีไซน์ สตูดิโอ เล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟัง

พื้นที่กว่า 1 ไร่ของบริษัท จึงถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนธรรมชาติกึ่งโมเดิร์นขึ้นมา
"ตอนแรกที่ย้ายเข้ามา พื้นที่สวนส่วนใหญ่จะหนักไปทางฮาร์ดสเคป เป็นพื้นปูนเกือบหมด มีสระว่ายน้ำอยู่ระดับเดียวกับพื้น เลยต้องรื้อปรับใหม่หมด ทุบปูนออก ยกระดับสระว่ายน้ำขึ้นมาเพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้น ข้างๆขอบสระก็ทำให้ดูเป็น overflow เพราะอยากให้สระว่ายน้ำนี้เป็นจุดเด่นของสวน ส่วนกระเบื้องเราก็เปลี่ยนเป็นโมเสกสีดำ เพื่อให้เกิดภาพสะท้อนในสระว่ายน้ำ ไอเดียตอนแรกเรากำหนดให้เป็นสวนที่มีสีขาว-ดำ ทั้งฮาร์ดสเคปและต้นไม้ โดยเลือกใช้ต้นไม้ที่ให้ดอกสีขาว หรือมีใบด่างสีขาว

"พอเวลาผ่านไปสวนก็เปลี่ยนไป มีสีบานเย็นเพิ่มขึ้นมา รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีไอเดียอะไรมาเราก็ลองทำ ให้ดูแปลกใหม่ มีชีวิตชีวา อย่างผนังสีบานเย็นที่เห็น ทีแรกมันไม่มี เพิ่งมาทำเพิ่มทีหลัง ทาสีด้านหน้าเป็นสีบานเย็น เล่นสีสดๆ ปลูกแคคตัส ให้บรรยากาศออกมาดูเป็นเม็กซิกัน พอรายละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้เปลี่ยน ต้นไม้ในสวนก็เปลี่ยนไปบ้าง อย่างหัวใจม่วงนี่ก็เพิ่งมาลงเพิ่มตอนที่มีผนังสีบานเย็นนี่เอง ด้านหลังผนังสีบานเย็นก็เป็นห้องอีกห้องหนึ่งในสวน กั้นผนังขึ้นมาเพื่อให้เกิดความเป็นสัดส่วน มีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่ว่ามองแล้วทะลุเลยไป เห็นอะไรหมด

"ไม่ว่าองค์ประกอบย่อยๆในสวนบางอย่าง เช่น ของแต่งสวน ต้นไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ จะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่คอนเซ็ปต์หลักยังคงเดิม โครงสร้างหลักๆก็ยังอยู่อย่างเดิม เราตั้งใจทำให้สวนออกมาแล้วดูอบอุ่น ให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้านมากกว่าอยู่ออฟฟิศ มีส่วนที่เป็นนันทนาการของทุกคน มีสระว่ายน้ำ มีสนามฟุตบอล มีมุมนั่งเล่นที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานได้"

คุณจิระชัยเล่าให้ฟังอีกด้วยว่า ที่นี่จะมีปาร์ตี้เฮฮากันประจำ อย่างวันฮาโลวีนที่เพิ่งผ่านมานี่ก็เช่นกัน สีสันที่เปลี่ยนไปในสวนจึงมีสาเหตุมาจากปาร์ตี้เสียเป็นส่วนใหญ่ จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงแค่สีขาวและดำ แต่เมื่อเวลาและวาระเปลี่ยนไป สวนแห่งนี้ก็เปลี่ยนสีสันไปเรื่อย ไม่หยุดนิ่ง เหมือนดั่งดนตรีที่จะยังคงไม่หยุดบรรเลง จนกว่างานเลี้ยงนั้นจะเลิกไปก่อน

เรื่อง : "สายสุนีย์"
ภาพ : ชัยพฤกษ์ โพธิ์แดง
เจ้าของ-ออกแบบ : Bensley Design Studios

ป้ายกำกับ: , ,

การปลูกเลี้ยงต้นไม้ภายนอกอาคาร

คำแนะนำเมื่อนำต้นไม้มาถึงบ้าน

เมื่อนำต้นไม้กลับมาถึงบ้านแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การพักต้นไม้เหตุที่ต้องมีการพักต้นไม้ก็เพราะว่าในกรเดินทางนั้น ต้นไม้อาจได้รับความกระทบกระเทือน โดยลำต้นอาจจะมีการโยกคลอนหรือใบอาจเฉาอันเนื่องมาจากการคายน้ำระหว่างการเดินทาง ดังนั้นเมื่อนำต้นไม้มาถึงบ้านแล้ว ควรปฎิบัติดังนี้คือ

1. นำต้นไม้ไปตั้งว้ในร่ม เย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวกและไม่มีลงโกรก
2. อย่าให้น้ำแกต้นไม้ทันที ที่นำมาถึง
3. เมื่อให้น้ำควรให้ทีละน้อย ๆ แต่ให้บ่อยครั้ง รอจนต้นไม้ตั้งตัวได้ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ จึงให้น้ำอย่างเต็มที่แต่อย่าให้น้ำจนกระทั่งขังแฉะ ในระยะนี้ควรนำต้นไม้มาให้ได้รับแสงแดดทุกวัน โดยเพิ่มระยะเวลากรรับแสงแดดขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถตั้งไว้กลางแจ้งได้ทั้งวัน
4. ในกรณีที่ซื้อมามาก ๆ อาจนำไปตั้งไว้ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงาและมีแสงแดดรำไรก็ได้
5. เมื่อต้นไม้ตั้งตัวได้ดีแล้ว จึงนำไปปลูกเป็นไม้ประดับตามที่ต้องการต่อไป

คำแนะนำในกรปลูกไม้ประดับภายนอกอาคาร

ก่อนที่ท่านจะนำเอาไม้ประดับมาปลูกในบริเวณบ้านของท่านนั้น ท่านจะต้องทราบเสียก่อนว่าพันธุ์ไม้ที่นำมานั้นเคยอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นใดมาก่อนมีความต้องการปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่จะใช้ในการดำรงชีวิตและเจริญเติบโตมาก้อยแค่ไหน เมื่อท่านทราบถึงความต้องการและปัจจัยต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นต่อไม้ประดับของท่านแล้ว ขั้นต่อไปก็จะเป็นการปลูกไม้ประดับ ซึ่งมีวิธีการปฎิบัติดังต่อไปนี้คือ

1. เลือกดินที่มีความเหมาะสมกับความต้องการพันธุ์ไม้ประดับที่จะปลูก
2. การขุดหลุมปลูกนั้นให้พิจารณาถึงขนาดของพืช โดยพิจารณากลุ่มราก ขนาดของทรงพุ่ม ประกอบด้วย
3. ขุดดินขึ้นมาแล้วให้แยกดินส่วนบนหรือหน้าดินและดินส่วนล่างไว้ต่างหากกันคนละกอง โรยปูนขาวให้ทั่วทั้งหลุมและดินที่กองไว้ แล้วตากแดดเอาไว้ก่อนประมาณ 2 สัปดาห์
4. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือจะใช้ใบไม้แห้งผสมกับปุ๋ยคอกเก่า ๆ แทนก็ได้
5. นำดินส่วนบนลงไปแล้วคลุกให้เข้ากันกับปุ๋ย
6. นำพันธุ์ไม้ที่ต้องการจะปลูกวางลงไป จัดให้ตรงอย่าให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง แล้วหาไม้มาปักลงไปในหลุ่มเพื่อยึดต้นไม้ไว้
7. นำปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า ๆ มาผสมคลุกเคล้ากับดินอีกกองที่เหลือซึ่งเป็นดินล่าง ใส่ลงไปในหลุมแล้วกดให้แน่นแล้วรดน้ำให้ชุ่ม
8. ถ้าหากปลูกในหน้าแล้งควรทำคันดินเพื่อให้เก็น้ำที่คนต้นด้วยแต่ถ้าหากเป็นหน้าฝนควรพูนดินที่โคนต้นให้สูขึ้น เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
9. กรณีที่ปลูกไม้ประดับที่มีขนาดใหญ่แล้ว เช่น ปาล์ม ควรตัดใบออกบ้าง
10. พันธุ์ไม้ที่เพิ่งจะย้ายออกมาจากเรือนเพาะชำ ควรจะทำร่มเงาให้บ้าง เมื่อปลูกเสร็จแล้วผู้ปลูกควรจะต้องให้ความดูแลเอาใจใส่บ้างในระยะแรกจนกว่าไม้ประดับที่ปลูกจะตั้งตัวได้

ป้ายกำกับ: , ,

ต้นไม้...ป่วยหรือเปล่า

ต้นไม้...ป่วยหรือเปล่า


บ่อยครั้งที่คนเรามีอาการเจ็บป่วย บ้างเป็นไข้ บ้างปวดท้อง บ้างก็ปวดหัว ซึ่งอาการทั้งหลาย เราสามารถวินิจฉัย และอาจจะหาซื้อยามารับประทานเองได้โดยไม่จำเป็นต้องไปหาพบแพทย์ เช่น เดียวกับอาการป่วยของพืชซึ่งเราก็จะสามารถดูแลรักษาได้ เพียงแต่ต้องรู้จักสังเกตสิ่งผิดปรกติที่เกิด ขึ้น กับต้นไม้และหาสาเหตุของอาการผิดปรกตินั้น โดยสาเหตุที่ทำให้ต้นไม้ของคุณเกิดอาการผิดปกติ มีอยู่หลายสาเหตุด้วยกัน ซึ่งสาเหตุที่มักพบบ่อยๆ ได้แก่

1. ได้รับผลกระทบจากการทำลายของแมลง สัตว์ และ ศัตรูพืช
2. โรคพืช
3. วัชพืช
4. การขาดธาตุอาหารและอยู่สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
5. เกิดจากพิษตกค้างของสารเคมี

ทันทีที่พบว่าสาเหตุของอาการผิดปกตินั้น คืออะไร เราจะต้องทำการป้องกัน หรือกำจัด สาเหตุนั้นในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดอย่างหนัก โดยเลือกวิธีการที่เหมาะสม อาจไม่จำเป็นต้อง ใช้สารเคมี ก็สามารถป้องกัน และกำจัดอาการผิดปรกตินั้นๆได้

วิธีการสังเกตอาการผิดปกติของพืชสามารถทำได้ ดังนี้
1. การทำลายของแมลงศัตรูพืช ส่วนใหญ่จะเข้าทำลายกัดกินส่วนของบลำต้น ใบ ยอด ดอก ผล เช่น

1.1. ใบแหว่งลักษณะเหมือนการถูกกัดกิน เกิดจากการกัดกินของแมลงทั่วไป เช่น ตั๊กแตน หนอนผีเสื้อ ด้วงเต่า หอยทาก หรือ พวกด้วง ฯลฯ เบื้องต้นหมั่นสำรวจหาแมลง ถ้าพบให้ใช้วิธีจับ ตัวเต็มวัย หรือไข่มาทำลาย

1.2. ใบแห้งเป็นหย่อม ใบเหลือง เหี่ยวเฉา หรือใบเหลืองซีด เกิดจากเพลี้ยใบ เพลี้ยใบจะทำลาย พืชโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืชในบริเวณใบ ยอดอ่อน ดอก ระบาดในช่วงอากาศร้อนและแห้งแล้ง ป้องกันกำจัดโดยการพ่นละอองน้ำในช่วงกลางวัน เพื่อลดระดับความร้อนและเพิ่มความชื้นในอากาศ ใช้สารเคมีฉีดพ่น เช่น คาร์โบซัลแฟน โมโนโครโตฟอส ฟิโปรมิเล

1.3. ใบหรือยอดเจริญผิดปกติ และกลายเป็นสีดำ เกิดจากการทำลายของเพลี้ยอ่อน โดยการดูด น้ำเลี้ยงจากพืช แล้วถ่ายมูลเป็นน้ำเหนียว ๆ คล้ายน้ำหวาน ซึ่งต่อมามีเชื้อราอาศัยอยู่กินมูลของเพลี้ยอ่อน ทำให้เกิดโรคเชื้อรา การป้องกันกำจัด ใช้สารเคมีฉีดพ่น เช่น คาร์โบซัลแฟน คาร์บาริล มาลาไธออน

1.4. ใบมีรอยแผลเป็นทางคดเคี้ยวบนแผ่นใบ เกิดจากการทำลายของหนอนชอนใบ จะกัดกิน ทำลายเนื้อใบ การป้องกันกำจัด ใช้กาวดัก หรือแสงไฟแบคไลท์ เพื่อกำจัดตัวแก่ของผีเสื้อ หรือแมลงวัน ที่เป็นแหล่งที่มาของหนอน ใช้สารเคมีฉีดพ่นสลับกัน เช่น เพอร์เมทริน คาร์โบซัลแฟน ฟิโปรนิล ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้หนอน ดื้อต่อสารเคมีที่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ดี อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า โรคหรือแมลงที่เกิดกับต้นไม้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ บางกรณีไม่จำเป็นต้องตกใจเกินเหตุ จนต้องนำใช้สารเคมีมาใช้ทุกครั้ง เพียงแต่ หยิบ เด็ด หรือ ตัด ส่วนที่พบการทำลายนั้นทิ้งไปก็สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดรุกลาม ทั้งนี้ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยอีกด้วย

ป้ายกำกับ: , ,

การวิเคราะห์พื้นที่ และสภาพแวดล้อม เพื่อการออกแบบจัดสวน

ความสำคัญของการสำรวจพื้นที่และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมในการออกแบบจัดสวนนั้น นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเราสามารถนำผลที่ได้จากการวิเคราะห์ หรือ การทำ Site Analysis จะถูกนำมาเป็นเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่ใช้พิจารณาในการออกแบบ ตั้งแต่การกำหนดพื้นที่ ใช้สอย การกำหนดแนวทางในการปรับแก้สภาพแวดล้อมให้เหมาะต่อการปลูกวัสดุพืชพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับดิน การปรับแก้สภาพดินให้เหมาะต่อ การเพาะปลูก ตลอดจนการเลือกวัสดุ
พืชพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่

ทิศทางแดดและลม
WIND & SUN DIRECTION
สำหรับตัวบ้านต้องมีการออกแบบและจัดวางพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการความสะดวกสบาย เช่น ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องพักผ่อน ห้องนอน ไว้ในบริเวณหรือด้านที่สามารถรับลมได้ดี และหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณดังกล่าวโดนแดดส่องถึง และขณะเดียวกันก็จัดบริเวณที่ต้องการแดด เช่น ส่วนซักล้าง โรงจอดรถ หรือส่วนที่ไม่สำคัญ หรือต้องการความสะดวกสบายไว้ทางด้านที่ต้องเจอแดด จะเห็นได้ว่าตำแหน่งของห้องที่สำคัญต่างๆ จะอยู่ทางทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก และตำแหน่งส่วนซักล้างหรือโรงจอดรถ จะอยู่ทางทิศใต้ หรือทิศตะวันตก เพราะห้องสำคัญสามารถรับลมที่พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้ดี ถือเป็นการออกแบบให้ถูกต้องตามหลักการออกแบบที่เกี่ยวกับเรื่องการจัดวาง Lay Out และ Orientation ส่วนบริเวณที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแดดหรือความร้อนได้ ก็จะต้องใช้การออกแบบส่วนของโครงสร้างหรือการเลือกวัสดุพันธุ์ไม้เข้ามาช่วยสร้างสภาวะสบายให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาต่อไป

สภาพดินและสภาพภูมิประเทศ
สภาพดิน SOIL CONDITIONING
เราจำเป็นจะต้องทราบข้อมูลของดินก่อนที่จะทำการปลูก เพื่อที่จะทำการปรับสภาพดิน โดยเราอาจใช้วิธีเลือกต้นไม้ให้เข้ากับสภาพดิน หรือทำการปรับสภาพดิน
กรรมวิธีในการปรับสภาพดินสามารถทำได้โดย
1. เติมสิ่งที่ขาดลงไปในดิน
2. ปรับปรุงความหยาบ ความละเอียดของดิน
3. ควบคุมระบบระบายน้ำ
4. ทำปุ๋ยจากเศษใบไม้ผุ กิ่งไม้และใบไม้ที่ตัดแต่งกิ่ง

เปลี่ยนดิน ในกรณีที่ดินเดิมมีสภาพแย่มาก

สภาพภูมิประเทศ TOPOGRAPHY
เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับระดับดิน โดยจะต้องมีข้อมูลที่เกี่ยวกับระดับดินเดิม ซึ่งจะพิจารณาร่วมไปกับการกำหนดพื้นที่ใช้สอย และทำการปรับพื้นที่ ให้สอดคล้องกับแนวคิดในการกำหนดพื้นที่ใช้สอย การปรับพื้นที่รวมถึงการขุดและการถมที่เพื่อให้ได้ระดับที่ต้องการ หรือเป็นการปรับปรุง รูปร่างและลักษณะของพื้นที่เพื่อเตรียมการระบายน้ำ
การระบายน้ำแบ่งออกได้เป็น 2 ทางคือ
1. การระบายน้ำทางผิวดิน Surface Drainage
2. การระบายน้ำใต้ผิว Subsurface Drainage

ป้ายกำกับ: , ,

Garden Guides

Garden Guides, Your Guide to Everything Gardening
Featured Members
witt
garden98011
motherbored
kimsheaven
Current Community Discussions!
Join our community and add your thoughts!
Whether you are new to gardening, or a seasoned gardening pro, Garden Guides has everything you need. For more than eight years, Garden Guides has been a leader in online gardening information, providing thousands of pages of detailed and extensive information on plants, pests, gardening tips & techniques, gardening recipes, seeds & bulbs, gardening books, nurseries & landscapers, and much more.
Get started by following the links below.
Garden Plants
Garden How-Tos
Community
Garden Pests
Garden Resources
Garden Supplies
Garden Guides Community

Visit our new and improved garden and gardening community section, featuring the most active garden forums on the internet, blogs, photos, messaging, and more!
Use our garden forums to discuss any and all aspects of gardening, from when to plant your bulbs, to dealing with garden pests, to what to cook with your home grown vegetables and fruits, and more.
Create and update your very own gardening blog.
Upload and share your flowers and other gardening photos.
Keep up to date with all of your gardening friends by reading their blogs and sending personal messages.
Sponsored LinksOrganic Gardening Garden Decor Garden Plants Gardening Tips Garden Pests Garden Supplies
Garden Plants
Visit our Plants database to find extensive information on a wide variety of garden plants.
Flowers, Herbs, Fruit & Vegetables
Trees & Shrubs
Plant Information Sheets
Plant Guides
Garden Basics
Plants by Type & Name
Garden How-Tos
Garden Guides gives you all the gardening tips, techniques & tricks to help your green thumb improve.
Basic Gardening Tips
Container & Indoor Gardening Tips
Over 1,000 Recipes
All Gardening Tips
Community
Ask and answer questions, and have in depth discussions with a community of thousands of gardeners.
Visit our Forums
All Community Features
Garden Pests
Find information on the control and management of many types of garden pests, including insects (bugs), diseases, and more.
Helpful & Harmful Pests
Garden Pest Tips
Garden Resources
Listings of more than 20,000 nurseries and landscapers located throughout the United States.
Garden & Plant Nurseries
Landscapers Directory
All Garden Resources
Garden Supplies
In depth information on more than 750 seeds & bulbs, more than 450 gardening books & pamphlets, and listings of more than 2000 seed & bulb retailers.
Find Seeds & Bulbs
Gardening Books
Seed & Bulb Retailers
All Garden Supplies

ป้ายกำกับ:

ข้อมูลการจัดสวน

หน้าบ้าน ควรเลือกพันธุ์ไม้ปลูกตามความเหมาะสมของทิศทางแดด ตัวเอย่างเช่น ถ้าหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก แดดจะส่องเข้าบ้านแรงมากในตอนบ่าย ควรปลูกต้นไม้ที่สามารถบังแดดได้เพื่อไม่ให้ผนังบ้านร้อน าบ้านมีพื้นที่หน้าบ้านมากพอที่จะปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เช่น พิกุล จำปี ซึ่งการดูแลให้ต้นปีปมีใบดกแน่นต้องหมั่นให้น้ำ มิฉะนั้นปีปจะมีใบโปร่งทำให้้ได้ร่มเงาน้อย แต่ถ้าบ้านมีเนื้อที่น้อย ควรปลูกต้นไม้ที่ไม่กินพื้นที่มาก แต่สามารถทำให้ผนังบ้านได้ร่มเงา ได้แก่ ต้นไม้ตระกูลหมาก หรือปาล์ม บางชนิด เช่น หมากเขียว หมากเหลือง หมากนวล เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดค่อนข้างกระทัดรัด และรากไม่รบกวนโครงสร้างของอาคาร

ถ้าหากหน้าบ้านหันทางทิศเหนือ หรือ ตะวันออก ปัญหาเรื่องแสงแดดจะน้อยเพราะได้เงาของอาคารช่วยในตอนบ่าย ดังนั้นจะใช้ต้นไม้ขนาดเล็ก เช่น โมก แก้ว หรือลำดวนก็ได้ หน้าบ้านเป็นจุดที่ทุกคนต้องการให้สวย จึงควรจัดเป็นสวนหย่อม และไม่ควรมีต้นไม้ที่ทึบมากจนมองไม่เห็นหน้าบ้าน หากมีใครไปใครมา และการจัดสวน
ที่ให้สีสันบ้างจะให้บรรยากาศต้อนรับแก่ผู้มาเยือนการทำสนามหน้าบ้านนอกจากจะให้ความรู้สึกร่มรื่นแล้วหญ้าจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้ดิน และช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตดีและให้ความเย็นแก่พื้นดินบริเวณบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น ซึ่งทำให้ช่วยลดการใช้แอร์ และพัดลมลงได้

ตกแต่งและดูแลสวน วางแผนล่วงหน้า
การตกแต่งและดูแลสวนเป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้น หากไม่ต้องการมีภาระในการดูแลสวน ควรวางแผนในการจัดวางภูมิทัศน์ของบ้านเสียตั้งแต่เนิ่นๆ เริ่มตั้งแต่การวางแนวความคิด การออกแบบเลือกสไตล์ การเลือกลักษณะพืชพันธุ์ และวางองค์ประกอบของสวนโดยเฉพาะสวนที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น สระน้ำ หนองน้ำ หรือบ่อปลา ซึ่งล้วนแต่ต้องการดูแลรักษาเป็นอย่างดีทั้งสิ้น เพื่อให้คงสภาพความสวยงามได้ยาวนาน การวางระบบระบายน้ำในสวน ระบบน้ำในสระน้ำหรือบ่อปลา การออกแบบระบบให้น้ำพืช ฯลฯ นอกจากจะเสียแรงเสียเวลาแล้วยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาอีกด้วย
วารสารของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านแนะนำว่า การเลือกพันธุ์ไม้ที่มีความคงทนถาวร เป็นไม้ยืนต้น จะช่วยลดภาระในการดูแลได้ส่วนหนึ่ง สำหรับไม้ดอกที่มีสีสันสวยงามตามฤดูกาลนั้น หากเป็นต้นไม้ประเภทล้มลุกเจ้าของก็จะต้องเข้าใจในวงจรชีวิตของ พืชพันธุ์นั้นๆ ว่าจะต้องมีการถากถางพื้นที่ ต้องคอยปลูกทดแทนกันอยู่เรื่อยๆ เมื่อหมดอายุขัย
การปลูกต้นไม้จะต้องคำนึงถึงขั้นตอนของการรดน้ำพรวนดินและใส่ปุ ๋ย ซึ่งจะต้องมีเป็นกิจวัตรต่อไปในอนาคต การจัดสวนให้ดูสวยงามในระยะแรกโดยไม่ได้เผื่อพื้นที่สำหรับการด ูแลเอาไว้ ทำให้ยากต่อการดูแลรักษาต้นไม้ที่ปลูกก็จะไม่เจริญเติบโตสวยงาม ตามที่ตั้งใจไว้ หรือพื้นที่บางแห่งมีช่องให้เข้าไปปลูกต้นไม้ได้ แต่เข้าไปดูแลบ่อยๆ ไม่สะดวก ต้นไม้ก็จะเฉา ไม่งอกงาม

การตัดแต่งกิ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ หากต้องการให้สวนมีสภาพสวยงามคงที่ ซึ่งเจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักลืมคิดถึงขั้นตอนนี้ และอาจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง หรือไม่มีอุปกรณ์ที่ครบถ้วนเหมาะสม โดยเฉพาะต้นไม้ยืนต้น ถ้าหากปล่อยให้เติบโตโดยไม่ดูแลตัดแต่ง กิ่งไม้อาจไปรบกวนสายไฟก่อให้เกิดอันตรายได้

การกำจัดแมลงและวัชพืช สำหรับสวนในบ้าน ซึ่งเป็นสวนขนาดเล็ก ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีพิษร้ายแรงในการกำจัดศัตรูพืช เพราะอาจมีผลข้างเคียงต่อคนและสัตว์เลี้ยงในบ้านได้ การเลือกใช้สารกำจัดศัตรูพืชสำหรับสวนในบ้าน ควรเลือกสารชีวภาพที่ปลอดภัยต่อร่างกายของคนและสัตว์ หรือทางที่ดีควรเลือกปลูกพืชพันธุ์ที่ปลอดจากปัญหาแมลงศัตรูพืช ก็จะช่วยลดภาระในการดูแลสวนไปได้มาก และทำให้มีเวลาเหลือพอที่จะชื่นชมความงามของสวนสวยๆ หลังกลับจากเลือกงานหรือในวันหยุดได้อย่างสบายใจ
แหล่งที่มา ประชาชาติธุรกิจ คอลัมเก็ยเล้กผสมน้อย

น้ำพุ กับการแต่งสวน ให้บ้านน่าอยู่
การแต่งสวนด้วยน้ำพุนั้น บ้านเราก็มักจะมีการตกแต่งที่หลากหลาย แล้วแต่ความชื่นชอบแต่ละบุคคลไป บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) นำเสนอไอเดียเกี่ยวกับเรื่องราวการตกแต่งน้ำพุให้ผู้ที่สนใจนำไปปรับใช้ในการตกแต่งสวนที่บ้านตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ

รู้จักกับน้ำพุกันสักนิด

หากจะว่ากันไปแล้ว น้ำพุมีอยู่ 2 ประเภท คือ น้ำพุธรรมชาติ เกิดจากแรงดันของน้ำที่อยู่ใต้ดิน พุ่งผ่านรอยแยกของพื้นดินขึ้นมา ส่วนมากจะเป็นน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น พุ่งผุดขึ้นมาอาจจะมีหลายจุดในบริเวณเดียวกัน หรือพุ่งแรงจุดเดียว

ส่วนที่กำลังจะพูดถึงอยู่นี้ก็คือ น้ำพุประดิษฐ์ สร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ มีองค์ประกอบสำคัญคือ ภาชนะ เช่น อ่าง หรือสระ เพื่อกักเก็บน้ำ ปั๊มน้ำ เพื่อดูดน้ำส่งผ่านหัวน้ำพุ ซึ่งเครื่องปั๊มจะทำงานโดยการใช้ไฟฟ้าหรือน้ำมัน รูปแบบของน้ำพุประดิษฐ์มีหลายรูปแบบ ได้แก่

น้ำพุแบบติดผนัง ส่วนมากจะประกอบด้วยประติมากรรมแบบต่างๆ

น้ำพุแบบลอยตัว คือมองได้รอบข้าง มีอ่างน้ำรองรับ ซึ่งจะเป็นลักษณะของน้ำพุแบบยุโรปนิยม น้ำพุอีกประเภท คือ "หัวน้ำพุวางไว้กลางสระน้ำธรรมชาติ" แบบนี้มักจะใช้เพื่อประโยชน์ในการเติมออกซิเจนให้น้ำในสระนอกเหนือไปจากความสวยงาม และเสริมบรรยากาศ

สิ่งที่ทำให้น้ำพุมีความแตกต่างกันในด้านความสวยงาม แปลกตาน่าสนใจ นั่นคือ หัวน้ำพุ ซึ่งอาจพุ่งขึ้นเป็นลำ หรือเป็นฝอย หัวน้ำพุมีการพัฒนารูปแบบให้งดงาม อาจพุ่งออกจากจุดศูนย์กลาง เป็นช่อเป็นชั้นลดหลั่นกัน หรือพุ่งจากรอบบ่อเข้ามาจุดศูนย์กลาง

การเลือกใช้หัวน้ำพุ

การเลือกใช้หัวน้ำพุชนิดใดนั้นต้องพิจารณาจาก บ่อ สระ หรือภาชนะ ให้มีความสัมพันธ์กันคือ ขนาดของบ่อ สระ หรือภาชนะต้องพอเหมาะพอดีกับสระน้ำที่พุ่งออกมาจากหัวน้ำพุ บ่อ หรือสระที่กว้างมาก ถ้าใช้หัวน้ำพุเล็กเกินไป ก็จะกลายเป็นน้ำที่พุ่งออกจากปากปลา เพื่อจับแมลงกิน แต่ถ้าหัวน้ำพุใหญ่มาก น้ำจะพุ่งเลยขอบสระ และน้ำก็จะหายไปทีละเล็กทีละน้อยต้องเติมน้ำกันบ่อยๆ อีกทั้งรอบสระก็จะเฉอะแฉะไปหมด

น้ำพุที่ใช้ประกอบสวนขึ้นอยู่กับสไตล์ของสวน ถ้าเป็นสวนสไตล์ธรรมชาติ สระน้ำควรมีรูปทรงอิสระไม่ใช่รูปเรขาคณิต หัวน้ำพุอาจพุ่งขึ้นจากจุดเดียว กระจายเป็นฝอยออกรอบทิศ หรือเป็นแท่งเป็นลำขนาดใหญ่ หากเลือกหัวน้ำพุที่มีละอองละเอียดมาก ต้องพิจารณาด้วยว่า กระแสลมจะพัดพาละอองน้ำออกจากบ่อหรือสระหรือไม่

สวนที่มีสไตล์แบบยุโรป คือเป็นสวนประดิษฐ์ (formal) มักจะมีบ่อรูปทรงเรขาคณิต มีรูปปั้นเหมือนจริงประกอบ เช่น เป็นปลาโผล่หัวขึ้นมาพ่นน้ำ รูปปั้นปลาจะเป็นปูนหรือทองแดงก็ได้

ตำแหน่งของน้ำพุ

ตำแหน่งขึ้นอยู่กับรูปแบบของอาคาร และวัตถุประสงค์ บางครั้งเราตั้งตำแหน่งของน้ำพุไว้ในสวน เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหว เกิดเสียง เสริมบรรยากาศ แต่บางครั้งก็เพื่อประกอบให้อาคารงดงามขึ้น บางครั้งการสร้างน้ำพุก็เพราะความเชื่อโชคลาง ทำตามซินแสบอกเรื่องฮวงจุ้ย อันนี้ทำเพื่อความสบายใจ และตำแหน่งของน้ำพุมักจะไว้หน้าบ้าน สรุปว่าตำแหน่งของน้ำพุขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเจ้าของบ้าน ไม่มีข้อกำหนดในเรื่องตำแหน่ง

พื้นที่ที่ต้องเตรียมติดตั้งน้ำพุ

ไม่มีข้อกำหนดอีกเช่นกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบ สิ่งที่สำคัญคือ ไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้ที่ใบร่วงมาก จะทำให้เกิดปัญหาการหมุนเวียนของน้ำเพราะเกิดการอุดตัน ไม่ควรวางไว้ในทิศทางที่ลมพัดแรงมาก เพราะลมจะทำให้น้ำพุ่งออกมาผิดจากลักษณะที่ต้องการ

การดูแลน้ำพุ

คือ การทำให้น้ำซึ่งหมุนเวียนสะอาดใสอยู่เสมอ หัวน้ำพุเมื่อใช้ไปนานๆ อาจมีการอุดตันเพราะหินปูนในน้ำ ควรถอดออกมาทำความสะอาดบ้าง

งบประมาณสำหรับการติดตั้งน้ำพุ

ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของหัวน้ำพุ มีตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยบาทจนถึงเป็นหมื่น ปั๊มน้ำก็ขึ้นอยู่กับหัวน้ำพุถ้าต้องการน้ำพุแรงก็ใช้ปั๊มขนาดใหญ่
การจัดสวนขนาดย่อม

การจัดสวนขนาดย่อม

สวนขนาดย่อมที่เรารู้จักและคุ้นเคยมีหลากหลายสไตล์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดต้นไม้ในถาด โดยกำหนดทัศนียภาพหลากรูปแบบ ตามแต่จินตนาการ อาทิ ภูเขา ทะเลชายฝั่ง บ้างก็เน้นส่วนประกอบประเภทหิน ดิน ทราย และต้นไม้เป็นหลัก หรือจัดแบบไม้เกาะหิน ไม้ตกกระถางและแจกัน การจัดสวนแบบย่อส่วนนี้ อาศัยองค์ประกอบเพียงเล็กน้อย นั่นคือ ความคิดสร้างสรรค์ และเวลาว่าง สำหรับผู้ที่อยากลงมือตกแต่งสวนขนาดจิ๋วให้สวยและได้น้ำหนัก สัดส่วนที่ดีแล้ว ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน ควรจะฝึกฝนการใช้สีสัน การจัดแต่งรูปทรง การจัดกลุ่มต้นไม้ให้ผสมผสานกลมกลืน หรือขัดแย้งกันอย่างพอเหมาะ ศึกษาธรรมชาติของต้นไม้ การปลูกและความละเอียดอ่อนในการดูแล รวมถึงการเลือกขนาด รูปทรง และสีสันของภาชนะ ให้เหมาะกับพันธุ์ไม้ และรูปแบบสวนที่กำหนดไว้ ที่สำคัญคือ ไม่ควรมีจุดเด่นมากเกินไปในสวน เพราะจะทำให้ดูเลอะเทอะ อาจทำให้ความสวยงามลดลงได้ สำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญการจัดสวนขนาดย่อมแล้ว การจัดสวน จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก เนื่องจากคุ้นเคยกับการออกแบบ และมองภาพรวมของสวนออกแล้วนั่นเอง

ป้ายกำกับ: , ,

การจัดสวน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
การจัดสวน คือกิจกรรมที่เป็นศาสตร์ศิลป์และงานฝีมือที่เกี่ยวกับการปลูกและดูแลพืชรวมถึงสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม โดยทั่วไปแล้วจะเป็นกิจกรรมในบริเวณที่อยู่อาศัย ในบริเวณที่เรียกว่าสวน

การจัดสวนอาจทำนอกบริเวณที่อยู่อาศัยก็ได้เช่น สวนสาธารณะ สวนพฤกษาศาสตร์ บริเวณสถานที่ท่องเที่ยว บริเวณโรงแรม/ห้างร้าน/บริษัท/หน่วยงานต่างๆ

การจัดสวนทั่วไปแล้วจะทำกลางแจ้งและทำบนดินแต่ก็อาจทำในร่มได้เช่น การจัดสวนในเรือนกระจก หรืออาจทำในน้ำได้การปลูกเลี้ยงสระบัว หรือแม้แต่การทำสวนพืชรากอากาศ

การจัดสวนอาจทำได้หลายรูปแบบเช่น สวนดอกไม้ สวนหิน สวนที่มีลักษณะที่สมดุลเช่นการจัดสวนแบบยุโรป หรือ ลักษณะการผสมผสานความไม่สมดุลเช่นการจัดสวนแบบญี่ปุ่น เป็นต้น

นอกเหนือจากการตกแต่งบ้านให้สวยงามแล้ว การจัดสวนก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้บ้านน่าอยู่น่าอาศัย เพราะการที่เรามีสวนที่สวยงามจะทำให้เรารุ้สึกว่าบ้านของเรานั้นหน้าอยู่


[แก้] ประโยชน์และความสำคัญในการจัดสวน
1.เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีให้เกืดขึน 2.เพื่อพัฒนาความคิดของผู้จัดสวนอยู่เสมอ 3.เพื่อความสวยงามในที่นั้นๆ

ป้ายกำกับ: